‘ตัวเงินตัวทอง’ คนไทยมีความเชื่อมากมาย ที่ฝังอยู่รากลึกของจิตใจ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ความเชื่อของคนรุ่นก่อน ก็ยังคงส่งผ่านมาถึงคนในปัจจุบันอยู่ดี
ตัวเงินตัวทอง โดยพื้นเพภาษาชาวบ้านเรียกว่า ตัวเหี้ย ซึงเป็นคำหยาบในภาษาไทย คนไทยจึงเอาคำว่า เหี้ย มาใช้ด่ากัน ไม่รู้ว่าเหี้ยนี้ คนไทยใช้อะไรตัดสิน จึงใช้คำว่าเหี้ยมาด่ากัน เอาจริงๆแล้วสัตว์ทุกชนิดนั้น มันทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป แต่ตัวเงินตัวทอง มักจะเป็นที่รังเกียจของคนไทยเสมอ
คำว่า เหี้ย เป็นคำหยาบที่มักใช้ด่าทอกันในสังคมไทย ซึ่งเปรียบโปรยได้เหมือนกับตัวเงินตัวทองหรือตัวเหี้ย ซึ่งคำว่า เหี้ย เปรียบโปรยได้เหมือนกับสัตว์ที่เป็นตัวเหี้ยที่มีลักษณะลำตัวที่น่าเกียจ ชอบอาศัยตามแหล่งน้ำขัง แหล่งน้ำสกปรก หากินอาหารจำพวกซากเน่าเปื่อยต่างๆ รวมถึงมีพฤติกรรมที่ชอบแอบลักขโมยกินเป็ด ไก่ของชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ นอกจากนี้ คนไทยยังมีความเชื่อว่า ตัวเงินตัวทองหรือตัวเหี้ย เป็นสัตว์อัปมงคลที่จะนำความโชคร้ายมาให้
ตามความเชื่อ ตัวเงินตัวทอง เข้าบ้านใครก็ตาม มักจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น โดยความเชื่อเรื่องตัวเงินตัวทอง หากพบว่าอยู่บริเวณใต้ถุนบ้าน ตามหลักความเชื่อแล้วห้ามไล่ออกจากบ้าน โดยปล่อยให้ตัวเงินตัวทองออกไปเอง จะช่วยเรียกทรัพย์ เรียกเงิน เรียกทองเข้าบ้าน และยังช่วยให้หมดทุกข์หมดโศก อย่างไรก็ตามหากเจอตัวใหญ่มาก ๆ เข้ามาแล้วไม่ยอมออกจากบ้านเองตามธรรมชาติ ก็ควรเรียกเทศกิจ หรือกู้ภัยมาช่วยจับออกไป แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือในหลักความเชื่อ และเกิดขึ้นจริง คือ ถ้าบ้านใครมีตัวเงินตัวทอง ตัวใหญ่ขึ้นมานอนตายในบริเวณบ้านของตน นั่นหมายความว่า ท่านจะได้ย้ายจากที่อยู่เดิมแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ววันนี้
ตามจริงแล้ว ภาพลักษณ์ที่ไม่ดีและชื่อเรียกที่เพราะทำให้เคยมีแนวความคิดที่จะเปลี่ยนชื่อใหม่ให้สอดคล้องกับชื่อเรียกภาษาอังกฤษ โดยเมื่อ 1 ก.ค. 2552 นายชัชวาล พิศดำขำ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในขณะนั้น มีความคิดอยากเปลี่ยนชื่อเป็น “วรนุช” ล้อไปตามชื่อวิทยาศาสตร์ที่ว่า Varanus salvator ซึ่งอาจจะทำให้คนดูถูกเหยียดหยามสัตว์ชนิดนี้น้อยลง แต่ว่าในเวลาต่อมาก็มีเสียงคัดค้านโดยมองว่าการใช้คำว่า ตัวเงินตัวทอง ก็ถือว่าสุภาพเหมาะสมแล้ว (ที่มาข้อมูล : www.bbc.com )
ทั้งนี้ ตัวเงินตัวทอง เป็นแค่สัตว์ที่มีชีวิตธรรมดา ที่เหมือนสัตว์ทั่วไป การที่เรานำพวกเขามาตัดสินในการดำเนินชีวิตก็คงไม่สมเหตุสมผล ถามว่าเรื่องพวกนี้ ฟังหูไว้หู ฟังเอาไว้เพื่อเป็นข้อคิดพิจารณาถึงความเป็นไปได้ ก็เกิดประโยชน์ไม่มากก็น้อย