ความเชื่อ
ความเชื่อ เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับมนุษย์โลก ไม่ว่าจะประเทศใดก็ตาม ทุกคนย่อมมีความเชื่อ มนุษย์อยู่ได้โดยมีความเชื่อ หากไม่มีความเชื่อแล้ว ชีวิตก็จะอยู่อย่างไร้ความหมายการดำรงชีวิตของมนุษย์ในสมัยโบราณที่มีความเจริญทางด้านวิชาการน้อย หรือความรู้การศึกษายังไม่มี

ความเชื่อ จึงเกิดจากการเกิดขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่มนุษย์เชื่อว่าเป็นการบันดาลให้เกิดขึ้นจากอำนาจของเทวดา พระเจ้า หรือภูตผีปีศาจ ทุกวันนี้ก็ยังคงมีให้เห้ฯตามชนบทในประเทศไทย หรือในชนเผ่า ที่ไหว้ผีบรรพบุรุษสืบทอดมาจนรุ่นสู่รุ่น จะเห็นได้จากการเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ อาทิเช่น ฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด อุทกภัย และวาตภัย ต่างๆ ขึ้น คนในยุคโบราณจะประมาณการว่า เกิดจากการลงโทษจากเทพเจ้า ความเชื่อจึงล้วนเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อชีวิตหรือความเป็นอยู่ของมนุษย์ ซึ่งยากที่จะทลายความเชื่อ
ในความของ ความเชื่อ ซึ่งจริงแล้วคือ การยอมรับว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นความจริงหรือเป็นสิ่งที่เราไว้ใจ ความจริงหรือความไว้วางใจที่เป็นรูปของความเชื่อนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นความจริงที่ตรงตามหลักเหตุผลหรือหลักวิทยาศาสตร์ใดๆ คนที่เชื่อในฤกษ์ยามก็จะถือว่า วันเวลาการโคจรของดวงดาวจะก่อให้เกิดผลต่อตัวมนุษย์
คนที่เชื่อเครื่องรางของขลังก็จะมีความยึดมั่นว่า เครื่องรางของขลังให้คุณให้โทษแก่ตนได้จริง ตัวอย่างของความเชื่อ ได้แก่ ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ โชคลาง ของขลัง ผีสาง นางไม้ ความเชื่ออำนาจลึกลับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เหล่านี้เป็นต้น การเชื่อในสิ่งเหล่านี้ ต้องประกอบไปด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา หากไรซึ่ง 3 ข้อที่กล่าวมาก็จะกลายเป็นคำว่า งมงาย
ปัจจุบันความเชื่อเหล่านี้กลับมาเป็นเทรนด์ฮิตอีกครั้งในความเชื่อสมัยใหม่ นั้นคือ มูเตลู หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่า มูเตลู หรือสายมูคืออะไร ความหมายของมูเตลู มีที่มาจากไหน รวมถึงการนำมาใช้ในเรื่องใดบ้าง อาทิเช่น ใช้รถสีอะไรถึงจะดี วันนี้ใส่เสื้อโทนสีอะไร จึงจะโชคดีมีชัย ทุกอย่างจึงต้องมีเหตุผลตามมาเสมอ จึงเกิดเป็นความเชื่อ
ทั้งนี้ มูเตลู คือเรื่องของความเชื่อ ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ การดูไพ่ การเสริมดวงและโชคชะตา รวมถึงการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นการหลอมรวมความเชื่อของศาสนาพุทธ พราหมณ์ การนับถือผีและสิ่งเร้นลับเข้าด้วยกัน จนกลืนกลายเป็นความเชื่อที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คน ส่วนคำว่าสายมู เป็นคำที่คนยุคปัจจุบัน เรียกกันต่อมาๆ เพราะว่ามันเรียกง่ายและชื่อไม่ยาว จึงเป็นคำติดปากเป็นต้นมา